อย่าละเลยเรื่องการดื่มน้ำ เพราะน้ำมีความสำคัญต่อร่างกายของเราอย่างมาก
ปกติร่างกายของมนุษย์ควรจะมีน้ำเป็นส่วนประกอบประมาณ 70% แต่ ดร.ทอม อู๋ ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการที่สามารถเอาตัวรอดจากโรคมะเร็งได้ บอกว่า คนในปัจจุบันมีน้ำ ในร่างกายเพียง 60-65% เท่านั้น
เมื่อมีน้ำน้อยแล้วเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของเรา ?
มันจะทำให้เชลล์ในร่างกายอยู่ในสภาพขาดน้ำ เพราะเมื่อน้ำ ไม่เพียงพอ ก็ไม่สามารถขับพิษได้ นั่นหมายความว่าอาจทำให้เซลล์ตาย หรือกลายเป็นเซลล์มะเร็งได้ และเมื่อเลือดข้นขึ้นจะทำให้ท้องผูก ผิวหนังขาดน้ำทำให้เกิดฝ้าจุดด่างดำ เหี่ยวย่น แก่เร็ว หรือว่าผมร่วง
รวมทั้งการดื่มบางอย่าง กลับทำให้สูญเสียน้ำในร่างกายไปด้วย
* อย่างเช่นเมื่อคุณดื่มกาแฟ 1 แก้ว ทำให้สูญเสียน้ำที่สะสมในร่างกายถึง 3 แก้ว
* ถ้าดื่มชา 1 แก้ว ก็จะสูญเสียน้ำไป 2 แก้ว
* หรือว่าคุณดื่มน้ำอัดลมหรือไวน์แดง 1 แก้ว จะสูญเสียน้ำในร่างกายไปถึง 6 แก้วทีเดียวเชียว
ฉะนั้นควรจะต้องรู้ว่าดื่มน้ำอย่างไรจึงจะถูกต้อง
และ วิธีการดื่มน้ำก็สำคัญมาก ควรจิบทีละน้อย เพื่อให้เซลล์ในร่างกายมีเวลาเพียงพอต่อการดูดซึมน้ำ เพราะถ้าคุณดื่มทีเดียว รวดเดียวหมด เซลล์จะดูดซึมไม่ทัน น้ำทั้งหมดจะสูญไปกับการปัสสาวะออกมา
โดยเราควรจะรู้ด้วยว่าน้ำแต่ละประเภทที่เราดื่มเข้าไปนั้นมีข้อดี ข้อด้อยอย่างไร
* น้ำกรองหรือน้ำประปาที่เราดื่มกัน ก็เป็นเพียงการกรองเพื่อกรองโลหะหนักออกไป แต่ว่ายังมีแบคทีเรียและสารเคมีหลงเหลืออยู่
* น้ำแร่นั้น กระทรวงเกษตรอเมริการายงานว่า น้ำแร่ที่ขายกันอยู่ มีโลหะหนักและสารอนินทรีย์เป็นปริมาณมาก มีข้อเสียคือจะไปอุดตันช่องว่างระหว่างเซลล์ ทำให้อาหารเข้าไปในเซลล์ไม่ได้ เซลล์จึงค่อย ๆ แก่ตัวและตายไป ซึ่งเป็นต้นเหตุให้เรารู้สึกเพลียง่าย หรือแก่ก่อนวัย
* เช่นเดียวกัน เราไม่ควรดื่มน้ำที่เป็นด่างเป็นประจำ เพราะจะทำให้เกิดอาการอาหารไม่ย่อยและขาดสารอาหาร
ดร.ทอม อู๋ แนะนำว่า หากดื่มน้ำกลั่นวันละ 8 แก้ว (แก้วละ 250 ซีซี) ก็จะทำให้ไตมีน้ำพอที่จะฟอกเลือดได้
นอกจากร่างกายต้องการน้ำวันละ 8 แก้วแล้ว ร่างกายของเรายังต้องการอิเล็กโทรไลต์และเกลือแร่ด้วย โดยเฉพาะเกลือแร่ในผักผลไม้ที่เป็นสารอนินทรีย์ ขนาดเล็ก ซึ่งเซลล์ของร่างกายสามารถดูดซึมได้
ดังนั้นจึงควรกินผักผลไม้มาก ๆ เพื่อให้ได้รับเกลือแร่ที่มีประสิทธิภาพ เพื่อนำไปเติมอาหารให้เซลล์นำไปใช้งาน
ดร.ทอม อู๋ ยังให้คำแนะนำด้วยว่า ปริมาณในการดื่มน้ำของแต่ละคนไม่เท่ากัน
* คนที่นั่งอยู่ในห้องแอร์นาน ๆ ให้ดื่มน้ำวันละ 6 แก้วก็พอ
* แต่ถ้าทำงานที่ต้องเดินไปมา ควรจะต้องดื่มน้ำวันละ 8-10 แก้ว
* และถ้าหากทำงานตากแดดอยู่กลางแจ้ง หรือใช้แรงงานหนัก ควรดื่มน้ำวันละ 10-12 แก้ว ร่างกายจึงจะได้รับน้ำอย่างเพียงพอ
ฉะนั้นอย่าละเลยเรื่องการดื่มน้ำ หากดื่มน้ำถูกวิธี ก็จะมีผลดีต่อร่างกาย แต่ถ้าดื่มน้ำผิดวิธี มันจะ สูญเปล่าไปไม่น้อย
ที่มา: ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ วันที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552